สินค้า และบริการอื่นๆ ที่ไม่เข้าหมวด / วิธีการเลือกซื้อตู้เย็นอย่างชาญฉลาด แบบไหนเหมาะกับเราที่สุด
« เมื่อ: มีนาคม 26, 2019, 12:06:03 PM »วิธีการเลือกซื้อตู้เย็น
เมื่อคิดจะซื้อตู้เย็นสักเครื่อง คำถามแรกของใครหลายคนก็คงจะไม่พ้นคำถามที่ว่า “ยี่ห้อไหนดี” ใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าจะให้ดีจริง ๆ ควรพิจารณากันที่หลักการทำงาน ขนาด ราคา รูปแบบ 1 ประตู 2 ประตู หรืออื่น ๆ และการกินไฟมากกว่า เพราะข้อจำกัดเหล่านี้คือ วิธีการที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกตู้เย็นที่ตอบโจทย์ตู้เย็นกับความต้องการ และความเหมาะสมในการใช้งานของคุณได้มากที่สุด วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำวิธีเลือกตู้เย็นมาฝากกันค่ะ เพื่อให้คนที่กำลังจะซื้อตู้เย็นได้นำไปพิจารณาเลือกเครื่องที่เหมาะสมที่สุด
วิธีการเลือกซื้อตู้เย็น
1. เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
เหนือสิ่งอื่นใดในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้องคำนึงถึงการประหยัดไฟเป็นลำดับแรก ดังนั้นเราควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีสติ๊กเกอร์ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 กำกับ เพราะจะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่า แต่ถ้าเป็นตู้เย็นที่มีตัวเลขต่ำกว่า 5 ลงไปก็จะยิ่งกินไฟเยอะและมีคุณภาพที่ด้อยลงไป เช่น เบอร์ 1 คือระดับต่ำสุด เบอร์ 2 คือระดับพอใช้ เบอร์ 3 คือระดับปานกลาง เบอร์ 4 คือระดับดี และเบอร์ 5 คือระดับดีมาก ถ้าเปรียบเทียบเบอร์ฉลากกับค่าไฟที่ต้องเสียรายปีได้ ดังนี้
- ตู้เย็นฉลากเบอร์ 3 : กินไฟ 332 หน่วย/ปี ต้องเสียค่าไฟประมาณ 840 บาท/ปี
- ตู้เย็นฉลากเบอร์ 4 : กินไฟ 262 หน่วย/ปี ต้องเสียค่าไฟประมาณ 644 บาท/ปี
- ตู้เย็นฉลากเบอร์ 5 : กินไฟ 220 หน่วย/ปี ต้องเสียค่าไฟประมาณ 573 บาท/ปี
2. สังเกตจากรายละเอียดข้อมูล
ถึงแม้ข้อสังเกตนี้จะเป็นมาตรฐานทั่ว ๆ ไปที่ใช้ในการพิจารณากัน แต่ก็พลาดไม่ได้เลยนะคะ นั่นก็คือ ตู้เย็นจะต้องมีตราชื่อผู้ผลิตและเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน มีฉลากระบุรายละเอียดของประเภท รหัสรุ่น ปริมาตรภายใน และวงจรไฟฟ้าที่ครบถ้วน รวมไปถึงคู่มือแนะนำตู้เย็น อย่างเช่น รายละเอียดของตู้เย็น วิธีการใช้ วิธีการติดตั้ง อุปกรณ์ควบคุม การทำความสะอาด และการบำรุงรักษาไว้ด้วย
3. ขนาดความจุที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ขนาดความจุของตู้เย็นคือ จุดหลักที่ต้องคำนึงก่อนเลือกซื้อ หน่วยวัดขนาดของตู้เย็นเรียกว่า “ลูกบากศ์ฟุต” หรือ “คิว” ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ 1 คิวก็จะมีขนาดความจุเท่ากับถุงช้อปปิ้งตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ดังนั้นหากจะวัดคร่าว ๆ จากปริมาณของที่ซื้อเข้าตู้เย็นกับขนาดคิวตู้เย็นที่ต้องการก็ได้ จะวัดจากพฤติกรรมที่ชอบซื้อของแช่แข็งมากกว่าของสดทั่วไป ก็ควรเลือกตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งกว้างเป็นพิเศษ หรือจะคิดค่าเฉลี่ยของจำนวนสมาชิกในบ้านกับขนาดคิวตู้เย็น อย่างเช่น
- สมาชิกมี 2 คน : ปริมาณคิวที่เหมาะสมอย่างต่ำสุดคือ 2.5 คิวขึ้นไป
- ครอบครัวขนาดกลางสมาชิก 3-4 คน : ปริมาณคิวที่เหมาะสมคือ 12-18 คิว
- ครอบครัวขนาดใหญ่สมาชิก 5 คนขึ้นไป : ปริมาณคิวที่เหมาะสมคือ 15 คิวขึ้นไป
4. พิจารณาจากคุณสมบัติพื้นฐาน
คุณสมบัติพื้นฐานที่ว่านี้คือ ดีไซน์ภายในตู้เย็นที่ต้องเลือกให้เหมาะสม ดูทันสมัย และจัดวางสิ่งของง่าย พิจารณาได้จากส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้
- ชั้นวาง : จะต้องถอด-เข้าออกได้ เพื่อให้ง่ายต่อการปรับขนาดช่องแช่และทำความสะอาด
- ลิ้นชักช่องแช่ : จะต้องมีช่องแยกภายใน เพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับอาหารที่แช่
- ช่องผักและผลไม้ : จะต้องควบคุมความเย็นและชื้นอย่างเหมาะสม ให้ผักและผลไม้สดได้นาน
- ชั้นวางข้างประตู : จะต้องมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถแช่ขวดนมและขวดน้ำต่าง ๆ ได้ดี