อีโค สติกเกอร์ (Eco Sticker) : เป็นระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ แสดงถึงการประหยัดพลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ผู้ผลิต/นำเข้ารถยนต์ใหม่จะต้องติดสติ๊กเกอร์ทุกคัน บริเวณกระจกข้างด้านหลังคนขับ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 58 เป็นต้นไป ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็จะคล้ายๆ ฉลากไฟเบอร์ 5 แสดงถึงการประหยัดพลังงาน ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจน คือให้สังเกตุในช่องดาว ยี่ห้อไหน รุ่นไหนได้ครบ ถือว่าสุดยอดเลยก็ว่าได้ เพราะว่าจะผ่านด่านตรวจแต่ละด่านไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกค่ายรถจะทำได้ และมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถครับ
อัตราการเก็บภาษีสำหรับรถยนต์ใหม่ : จะยึดจากการปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นหลัก แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ต่ำกว่า 100, ต่ำกว่า 150, 150-200 และสูงกว่า 200 กรัม/กม.
-
อีโคคาร์ เฟส 2 ภาษีลดลง : จาก 17% เหลือ 14%
***E85 เหลือ 12%, ปกติปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 ก./กม.***-
เก๋ง /SUV ไม่เกิน 2.0 cc ภาษีเพิ่มขึ้น : เฉลี่ย 3-10%
***ปกติปล่อยไอเสียอยู่ระหว่าง ต่ำกว่า 150 แต่ไม่เกิน 200 ก./กม.***-
เก๋ง /SUV ตั้งแต่ 2.0-2.5 cc ภาษีเพิ่มขึ้น : เฉลี่ย 3-5%
***ปกติปล่อยไอเสียไม่เกิน 200 ก./กม.***-
กระบะ ไม่แคบ, มีแคบ และ 4 ประตู ภาษีเพิ่มขึ้น : เฉลี่ย 5-15%
***ปกติปล่อยไอเสียเกิน 200 ก./กม.***-
PPV ไม่เกิน 3.25 cc ภาษีเพิ่มขึ้น : 10%
***ปกติปล่อยไอเสียเกิน 200 ก./กม.***-
ไฮบริด ไม่เกิน 3.0 cc เสียภาษีเท่าเดิม : ภายใต้เงื่อนไขใหม่
***ปกติปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 ก./กม.***หมายเหตุ- ค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 จะรู้ได้อย่างไรว่าคันไหนปล่อยเท่าไร ให้ดู Eco Sticker ได้เลยครับทุกคันจะต้องติดไว้บริเวณกระจกหลังคนขับ ไม่อยากจ่ายภาษีแพงให้ดูค่านี้เป็นหลักครับ
- ผลของการปรับภาษีของรถยนต์ใหม่ ทำให้ราคารถยนต์ในตลาดสูงขึ้น 3-15% ค่ายรถต่างๆ หันมาพัฒนาแข่งขันในเรื่องของการลดก๊าซคาร์บอน พลังงานทางเลือก (E85, CNG, E20) ความปลอดภัย และประหยัดพลังงานกันมากขึ้น เสียภาษีในอัตราน้อยที่สุด ซึ่งส่งผลดีในอนาคตกับผู้ที่กำลังจะซื้อรถครับ
CR :
car.go.th,
Motorexpo,
autoinfo.co.th,
กระทรวงการคลัง,
Administrator Anonymous