เคสนี้จากภาพจะเป็นสายหัวเทียนมือสองด้วยกันทั้ง 2 ชุด ใช้งานได้ตามปกติ ไม่รั่ว ค่าที่ได้จะใกล้เคียงกับมาตรฐานชุดแรก ด้านบนสายสีฟ้า : เป็นสายหัวเทียนนำเข้าจากญี่ปุ่น NGK R09 เป็นตัว Top อยู่ในรถ Supra และ MR2 สามารถนำมาใช้ได้กับเครื่อง 1-2JZ GE GTE ที่เป็น VVTI ได้ทั้งหมด
ชุดสอง ด้านล่างสายสีดำ : เป็นสายหัวเทียนเดิมๆ ติดรถมาตั้งแต่โรงงาน อยู่ในเครื่อง 1-2JZ GE GTE ที่เป็น VVTI ด้วยเช่นกัน
เมื่อนำมัลติมิเตอร์เลือกย่านค่าความต้านทาน (โอห์ม) แล้วนำตัววัดไปแตะหัว-ท้ายที่สายหัวเทียนทั้ง 2 ด้าน ในแต่ละเส้น แตะไว้สักพักจนกว่าค่าที่ได้จะนิ่ง ก็จะได้ค่าทั้งหมดตามภาพ ***ให้สังเกตุหน่วยว่าเป็น โอห์ม หรือกิโลโฮห์มด้วยน่ะครับ***
หลังจากได้ค่าเรียบร้อยแล้ว สรุปได้ ดังนี้ชุดแรก ด้านบนสายสีฟ้า : ค่าความต้านทานจะต่ำกว่าสายธรรมดาค่อนข้างมาก สายยิ่งสั้นค่าความต้านทานยิ่งต่ำ อย่างเช่นค่า 294.4 ไม่ต้องตกใจน่ะครับ เพราะหน่วยเป็นโอห์ม ค่าความต้านทานจะต่ำกว่ากิโลโอมห์อยู่แล้วครับ ผลคือจ่ายกระแสไฟแรงคงที่ ลดสัญญาณรบกวน ECU และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ระบบเผาไหม้สมบูรณ์ ประหยัดเชื้อเพลิง อัตราเร่งลื่นไหล และที่สำคัญวัสดุซิลิโคนทนความร้อนได้สูงมาก โอกาสการรั่วของสายต่ำ อายุการใช้งานได้ยาวนาน
ชุดสอง ด้านล่างสายสีดำ : ค่าที่ได้ความต้านทานจะสูงกว่ามาก สายยิ่งยาวค่าความต้านทานยิ่งสูง เมื่อผ่านการใช้งานมานานบวกกับความร้อนสะสมโอกาสที่ไฟจะกระโดดมีสูง เนื่องจากเป็นฉนวนยางหุ้มธรรมดา รวมถึงสัญญาณรบกวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ภายใน
ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการทดสอบคลิปเปรียบเทียบกระแสไฟที่ออกจากสายหัวเทียนทั้ง 2 ชนิด โดยหัวเทียนที่ใช้ทดสอบเป็นของ Denso IK20 Iridium กับ NGK R BKR5EP จะเห็นกระแสไฟที่วิ่งออกมาขณะเร่งเครื่องสังเกตุสาย r09 กระแสไฟค่อนข้างนิ่งจับกลุ่มรวมเป็นเส้นให้กระแสได้ดีกว่าสายธรรมดา การจุดระเบิดเป็นไปอย่างเสถียร ส่วนระยะกระโดดของกระแสใกล้เคียงกันประมาณ 3 ซม. ***หัวเทียนที่นำมาทดสอบเป็นหัวเทียนที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย***
หมายเหตุ : 1000 Ohm = 1 k Ohm, 1000 k Ohm = 1 m Ohm
ค่าความต้านทานสายหัวเทียนอยู่ที่เท่าไร, ค่าโอห์มสายหัวเทียน, สายหัวเทียนค่าความต้านทานต่ำ, สายหัวเทียน 1-2JZ GE GTE VVTI, ใครเคยใช้สายหัวเทียน NGK บ้างดีไหม, สายหัวเทียนแต่งแท้นำเข้าจากญี่ปุ่น