เทคนิคการดูเครื่องยนต์รถมือ 2 หรือเครื่องยนต์ที่ดี สำหรับใช้งานทั่วไป จากประสบการณ์ตรง มีดังนี้
1. น้ำในหม้อพักน้ำจะต้องไม่หาย 1-2 ปี เติมที และเติมไม่มาก ไม่ว่าจะวิ่งมาก หรือน้อย + ใส่น้ำยาคูแลนด์ น้ำที่นำมาผสมควรเป็นน้ำกรอง หรือน้ำขวดที่ซื้อจากร้านค้าเท่านั้น : หากท่านใดเติมบ่อยทุกอาทิตย์ให้เช็ค ท่อยาง ---> ฝา/หม้อพักน้ำ ---> หม้อน้ำ ---> ปั๊มน้ำ ---> ปะเก็นฝาสูบ(เปิดฝาหม้อพักน้ำ สตาร์ทรถ / เหยียบคันเร่งคาไว้ จะต้องไม่มีฟองน้ำลอยขึ้นมาเป็นอันปลอดภัย และต้องไม่มีคราบน้ำมัน)
2. มีไอน้ำออกปลายท่อตอนเช้า หรือทุกครั้งที่มีการพักเครื่อง : แสดงถึงการสันดาปเผาไหม้ที่ดีเยี่ยม และต้องสัมพันธ์กับน้ำในหม้อพักน้ำจะต้องไม่ลด
3. สตาร์ทครั้งเดียวติด ไม่ว่าแก๊ส หรือน้ำมัน ไม่ลากรอบยาว หรือสตาร์ทหลายครั้ง : หากมีอาการดังกล่าวเช็ค ---> ระบบไฟ ---> ปั๊มติ๊ก ---> หัวฉีด ---> รีเลย์ควบคุมการสตาร์ทก่อนเข้ากล่อง ECU ---> ไดร์สตาร์ท ---> เซ็นเซอร์เกียร์
4. สตาร์ทตอนเช้า / เปิดแอร์ / เลี้ยวพวงมาลัย มอเตอร์เดิน-เบาต้องจะต้องทำงาน : เช้ารอบจะสูงขึ้นไม่เกิน 1500 หลังจากเครื่องวอร์มเรียบร้อยแล้ว รอบจะกลับมานิ่งอยู่ที่ 650 ตามเดิม
5. รอบที่ดีควรนิ่งอยู่ที่ 650 ไม่ว่าปิด หรือเปิดแอร์ และระบบไฟฟ้าต่างๆ : เครื่องจะต้องนิ่ง ไม่สั่นทั้งแก๊ส และน้ำมัน รวมถึงเข้าเกียร์ D เหยียบเบรค
6. เข็มความร้อนขึ้นที่กึ่งกลางพอดี : หากสวิง หรือต่ำกว่ากึ่งกลางให้เช็ค ---> ขั้ว / เซ็นเซอร์ ---> วาล์วน้ำ
7. คานหน้า หลังสวย ตะเข็บฝาประโปรงด้านในจะต้องเรียบ รอยเชื่อมขอบยางประตู รถมาเดิมๆ จะมีรอยอาร์คจากโรงงานสภาพสวย ช่องห่างขอบประตูกับตัวถังจะต้องเสมอกัน : ส่วนนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะหากโครง ตัวถัง ได้รับความเสียหาย บิดเบี้ยว ไม่ได้ศูนย์ ส่งผลต่อการขับขี่เป็นอย่างมาก
8. ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง ภายใน ภายนอก : ตรงนี้เราสามารถทยอยทำได้ครับ แต่เครื่อง+คาน ตะเข็บผมจะให้ความสำคัญมาอันดับ 1 ครับ ถ้าเช็คเครื่องยนต์ได้ตามนี้ ก็จะทำให้รถที่เราซื้ออยู่กับเราได้ยาวนานเลยครับ เพราะรถมือ 2 ที่ผมซื้อมี 240 740 960 ทุกวันนี้ถือว่าคุ้มค่ามากครับ ***สำหรับรถที่จอดตากแดด ตากฝนมานานๆ สามารถสังเกตุได้จาก สีกระโปรงรถหน้า-หลัง ป้ายภาษีที่กระจกหน้ารถ หรือชิ้นส่วนต่างๆ ภายในรถ และขอบยางประตูบน-ล่าง***